Showing 1–12 of 28 results

ไม้กระบาก อบน้ำยา

สารเคมีใช้ป้องกันรักษาเนื้อไม้มีคุณสมบัติดังนี้ 1. มีความเป็นพิษต่อศัตรูทำลายไม้ เช่น ปลวก มอด 2. มีความคงทนอยู่ในเนื้อไม้ได้นาน 3. มีความสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ได้ดี 4. ไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อเนื้อไม้ 5. ไม่ทำให้โลหะเป็นสนิม 6. ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ทำการอาบน้ำยาป้องกันรักษาเนื้อไม้และนำไม้ที่ผ่านการอาบน้ำยาแล้วไปใช้ประโยชน์ ข้อดีของการป้องกันรักษาเนื้อไม้ - ทำให้อายุการใช้งานของไม้ยาวนานขึ้น -บรรเทาในการหด ยืดและป้องกันการแตกหักและบิดงอ -ไม้มีความทนทานกำตัดเชื้อเห็ดราที่มีอยู่ในไม้ไม่ให้เกิดขึ้นมาใหม่ - ทำให้นำไม้มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น เช่น งานภายในอาคาร งานภายนอกอาคาร พื้นที่งานใต้ดิน งานที่ต้องใช้ไม้สัมผัสพื้นโดยตรงหรือฝั่งลงในดินหรืองานที่ต้องใช้ไม้สัมผัสน้ำโดยตรงซึ่งจะเป็นน้ำทะเลก็ได้ -ไม้มีน้ำหนักเบา สะดวกในการใช้งาน ทำงานได้ง่ายมากขึ้น -ในการทาสีจะสามารถติดดีกว่า - ทำให้มีทางเลือกในการออกแบบงานไม้มากขึ้น โดยเฉพาะบางสถานที่ที่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่ความคุณสมบัติเช่นไม้ หรือใช้ในงานตบแต่งให้เกิดความสวยงามต่างๆ

ไม้กระบากมาเลย์

ลักษณะ : เป็นต้นไม้สูงใหญ่ ขึ้นประปรายในป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณชื้นทั่วประเทศ ทางพฤกษศาสตร์จะมีอยู่ หลายชนิด แต่ในส่วนเนื้อไม้และการใช้มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ดี ลักษณะเนื้อไม้โดยรวมมีสีตั้งแต่นวลเหลืองถึงน้ำตาลอ่อนแกมแดง มีน้ำหนักโดยเฉลี่ย  ประมาณ 600 กิโลเมตรต่อลูกบาศก์เมตร คุณสมบัติ : - กันน้ำไม่บิดงอหรือโค้งโก่ง - เสี้ยนตรงเนื้อหยาบสม่ำเสมอ - เนื้อไม้แข็งเหนียว เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย - ไม้แห้งง่ายและไม่ค่อยเสื่อมเสียผุพังง่าย ประโยชน์ : ใช้ทำแบบหล่อคอนกรีตได้ดีเพราะถูกน้ำแล้วไม่บิดงอหรือโค้ง ทำเครื่องเรือนราคาถูก ทำกล่องใส่ของเก้าอี้ เป็นต้น ข้อจำกัด : เนื้อไม้เป็นทรายทำไห้กัดคมเครื่องมือช่างได้

ไม้กระบากลาว

ลักษณะ : เป็นต้นไม้สูงใหญ่ ขึ้นประปรายในป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณชื้นทั่วประเทศ ทางพฤกษศาสตร์จะมีอยู่ หลายชนิด แต่ในส่วนเนื้อไม้และการใช้มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ดี ลักษณะเนื้อไม้โดยรวมมีสีตั้งแต่นวลเหลืองถึงน้ำตาลอ่อนแกมแดง มีน้ำหนักโดยเฉลี่ย  ประมาณ 600 กิโลเมตรต่อลูกบาศก์เมตร คุณสมบัติ : - กันน้ำไม่บิดงอหรือโค้งโก่ง - เสี้ยนตรงเนื้อหยาบสม่ำเสมอ - เนื้อไม้แข็งเหนียว เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย - ไม้แห้งง่ายและไม่ค่อยเสื่อมเสียผุพังง่าย ประโยชน์ : ใช้ทำแบบหล่อคอนกรีตได้ดีเพราะถูกน้ำแล้วไม่บิดงอหรือโค้ง ทำเครื่องเรือนราคาถูก ทำกล่องใส่ของเก้าอี้ เป็นต้น ข้อจำกัด : เนื้อไม้เป็นทรายทำไห้กัดคมเครื่องมือช่างได้

ไม้การ์เปอร์

ลักษณะ : สีไม้เป็นสีเนื้อและสีแสดออกชมพู คล้ายไม้ยาง คุณสมบัติ : - เป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง - มีน้ำหนักเบา - เสี้ยนไม้ค่อนข้างละเอียด - ไม้หดตัวน้อย - ทนต่อแมลงกินไม้ต่างๆ ประโยชน์ : เหมาะสำหรับทำวงกบหรืองานเฟอร์นิเจอร์บางชนิด

ไม้ซีลาว

ลักษณะ : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อน คุณสมบัติ : เสี้ยนไม้หยาบแข็งเนื้อไม้ใกล้เคียงกับไม้เต็ง มีน้ำหนักเบากว่า ประโยชน์ : ใช้ทำวงกบ ประตูหน้าต่างและใช้ในการก่อสร้าง

ไม้ตะเคียน

ลักษณะ :  เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่พอสมควร สูง 20-40 เมตร ไม่ผลัดใบ เปลือกหนาสีน้ำตาลดำ แตกเป็นสะเก็ด กระพี้สีน้ำตาลอ่อน แก่นสีน้ำตาลแดง มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติทางตอนใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเซีย ในแถบประเทศไทย พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย บังกลาเทศ และอินเดีย พบมากในป่าดิบชื้น คุณสมบัติ : เนื้อเป็นลอยยักปานกลาง แข็ง เหนียว ทนทาน ทนทานปลวกได้ดี เลื่อน ไส กบ ตกแต่ง จะชักเงาได้ดีมาก ประโยชน์ : ใช้ในการก่อสร้างอาคารไม้หมอนรางรถไฟ ไม้ชนิดนี้นิยมใช้ทำเรือมาก และใช้ในการก่อสร้างได้อย่างที่ต้องการความแข็งแรง เหนียว ทนทาน

ไม้ตัวลัง

ลักษณะ :   เนื้อไม้จะมีเสี้ยนหยาบหนาแน่นไม่มาก ไม่ยืดหยุ่น มักแตกรอยลายงา ถ้าโดนแดดและฝนไม้จะแตกเสี้ยนเป็นรอยหยาบหรือตกเกล็ดเล็กๆ คุณสมบัติ :   เนื้อไม้มีความหนาและแน่น ประโยชน์ :   เหมาะสำหรับทำหน้าต่างสำหรับงานก่อสร้างบ้านเรือนแต่ไม่นิยมนำมาทำบานประตูเพราะเสี้ยนไม้ไม่สวยงาม

ไม้บีช

ลักษณะ : มี  2  ชนิด  คือ  ไม้บีชอเมริกัน  และไม้บีชยุโรป เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดแถบประเทศยุโรป มีสีครีมจนถึงน้ำตาล แก่นไม้สีน้ำตาลแดง  กระพี้เป็นสีขาว  มีเสี้ยนไม้ตรง  ไม้บีชอเมริกันจะมีสีเข้มกว่าบีชยุโรป ซึ่งมีสีออกขาวอมชมพู คุณสมบัติ : - เนื้อไม้ละเอียด ทำให้ทาสี  ย้อมสี  หรือฟอกสีง่าย - มีลวดลายสวยงาม - มีน้ำหนักเบาและความแข็งปานกลาง ประโยชน์ : นิยมใช้ทำเครื่องเรือน  ไม้พื้น  วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายใน

ไม้ประดู่

ลักษณะ : ไม้ประดู่ชิงชัน เป็นไม้ประเภทไม้เนื้อแข็ง  ลำต้นขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่ในป่าเบญจพรรณทั่วไป  น้ำหนัก 1ลูกบาศก์ฟุตประมาณ  67-70 ปอนด์  เนื้อไม้มีสีม่วงแก่  สีเส้นแทรกสีดำอ่อนหรือสีแก่กว่าพื้น   เสี้ยนมักสับสนเป็นริ้วแคบๆ คุณสมบัติ : - เนื้อไม้ละเอียดปานกลาง  แข็งและเหนียวมาก - ไม้มีความแข็งแรงทนทาน  ไสกบ  ตกแต่ง  ชักเงาได้ดี  แต่ตอกตะปูได้ยาก - เมื่อชักเงาแล้วจะมีลายมีสีสันสวยงามมาก - มีกลิ่นหอม ประโยชน์ : นิยมใช้กันในงานจำพวกงานเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ ปาร์เก้ไม้ประดู่ หรือพื้นไม้ลิ้นรอบตัว ใช้ทำพวกเครื่องเรือน  เช่นตู้  โต๊ะ  เก้าอี้รับแขก  เก้าอี้โยก  ด้ามเครื่องมือ  รางกบ  เกวียน  รถ  แกะสลัก  ทำหวี  เป็นต้น

ไม้มะค่า

ลักษณะ : เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เป็นไม้เนื้อแกร่งลำต้นใหญ่แต่ไม่สูงนัก  ขึ้นตามป่าดงดิบ  และป่าเบญจพรรณ  เว้นทางภาคใต้  เนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลเหลือง   เสี้ยนค่อนข้างสน  เนื้อไม้หยาบมีริ้วแทรก เนื้อไม้แข็งทำให้ เลื่อย  ไส กบ ค่อนข้างยาก  ถ้าไม้แห้งดีแล้วจะทำให้ตกแต่งง่ายขึ้น ในการ ขัดและชักเงาสามารถทำได้ดี  มีน้ำหนักต่อ  1  ลบ.ฟุตประมาณ  60  ปอนด์ คุณสมบัติ : - ลวดลายของไม้มะค่ามีความใกล้เคียงกับลวดลายของไม้สักเป็นอย่างมาก - ลักษณะของลายไม้มีความโดดเด่น คือ มีสีน้ำตาลอมส้ม เหลือบน้ำตาลทอง สีเหลืองอ่อน และสีเหลืองชมพู - เนื้อไม้มีความหนักแน่น ค่อนข้างหยาบแต่เรียบสม่ำเสมอกัน -  มีความแข็งแรง ทนทาน ผุพังได้ยาก - สามารถทนต่อปลวก มอด และเชื้อราได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ : การทำไม้มะค่าแปรรูป ประตูไม้มะค่า ทำไม้ปาเก้ไม้มะค่า พื้นไม้ไม้มะค่า เป็น ใช้ตกแต่งภายในที่อยู่อาศัย หรือในงานก่อสร้างทั่วไป ใช้ทำเสา  ไม้หมอนรางรถไฟ  ใช้ทำพวกเครื่องเรือน  เครื่องใช้ ตู้ โต๊ะ เก้าอี้รับแขก เป็นต้น

ไม้ยาง

ลักษณะ : เป็นไม้เนื้ออ่อนและหยาบ  มีสีน้ำตาลปนแดง แห่งช้า คุณสมบัติ : - มีความทนทานพอใช้ - ยืดหดง่าย - เลื่อย ไส ผ่าง่าย - ไม้บิดงอตามสภาพภูมิอากาศ ข้อจำกัด : เสี้ยนมักจะฉีกติดกันเป็นขลุยออกมา ทำให้ขัดหรือทาน้ำมันไม่ค่อยดี ถ้าไสตอนไม้สด ๆ  อยู่จะไม่เรียบดีนัก  หากใช้ในการก่อสร้างจะรับน้ำหนักมากๆไม่ได้  ใช้ในที่ต้องตากแดตากฝนไม่ได้แต่ถ้าทาสีน้ำมันป้องกันไว้  น้ำหนักต่อ  1  ลูกบาศก์ฟุตประมาณ  40-50  ปอนด์ ก็จะสามารถอยู่ได้ ประโยชน์ : ใช้ทำบ้านเรือน,เครื่องเรือนเฉพาะที่มีราคาถูก ๆ  สร้างบ้านใช้ทำฝา ทำฝ้าหรือส่วนที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก  นิยมใช้กันเพราะราคาถูกและหาง่าย