ไม้ยาง A

ลักษณะ : เป็นไม้เนื้ออ่อนและหยาบ  มีสีน้ำตาลปนแดง แห่งช้า คุณสมบัติ : - มีความทนทานพอใช้ - ยืดหดง่าย - เลื่อย ไส ผ่าง่าย - ไม้บิดงอตามสภาพภูมิอากาศ ข้อจำกัด : เสี้ยนมักจะฉีกติดกันเป็นขลุยออกมา ทำให้ขัดหรือทาน้ำมันไม่ค่อยดี ถ้าไสตอนไม้สด ๆ  อยู่จะไม่เรียบดีนัก  หากใช้ในการก่อสร้างจะรับน้ำหนักมากๆไม่ได้  ใช้ในที่ต้องตากแดตากฝนไม่ได้แต่ถ้าทาสีน้ำมันป้องกันไว้  น้ำหนักต่อ  1  ลูกบาศก์ฟุตประมาณ  40-50  ปอนด์ ก็จะสามารถอยู่ได้ ประโยชน์ : ใช้ทำบ้านเรือน,เครื่องเรือนเฉพาะที่มีราคาถูก ๆ  สร้างบ้านใช้ทำฝา ทำฝ้าหรือส่วนที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก  นิยมใช้กันเพราะราคาถูกและหาง่าย

ไม้ยาง อบน้ำยา

สารเคมีใช้ป้องกันรักษาเนื้อไม้มีคุณสมบัติดังนี้ 1. มีความเป็นพิษต่อศัตรูทำลายไม้ เช่น ปลวก มอด 2. มีความคงทนอยู่ในเนื้อไม้ได้นาน 3. มีความสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ได้ดี 4. ไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อเนื้อไม้ 5. ไม่ทำให้โลหะเป็นสนิม 6. ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ทำการอาบน้ำยาป้องกันรักษาเนื้อไม้และนำไม้ที่ผ่านการอาบน้ำยาแล้วไปใช้ประโยชน์ ข้อดีของการป้องกันรักษาเนื้อไม้ - ทำให้อายุการใช้งานของไม้ยาวนานขึ้น -บรรเทาในการหด ยืดและป้องกันการแตกหักและบิดงอ -ไม้มีความทนทานกำตัดเชื้อเห็ดราที่มีอยู่ในไม้ไม่ให้เกิดขึ้นมาใหม่ - ทำให้นำไม้มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น เช่น งานภายในอาคาร งานภายนอกอาคาร พื้นที่งานใต้ดิน งานที่ต้องใช้ไม้สัมผัสพื้นโดยตรงหรือฝั่งลงในดินหรืองานที่ต้องใช้ไม้สัมผัสน้ำโดยตรงซึ่งจะเป็นน้ำทะเลก็ได้ -ไม้มีน้ำหนักเบา สะดวกในการใช้งาน ทำงานได้ง่ายมากขึ้น -ในการทาสีจะสามารถติดดีกว่า - ทำให้มีทางเลือกในการออกแบบงานไม้มากขึ้น โดยเฉพาะบางสถานที่ที่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่ความคุณสมบัติเช่นไม้ หรือใช้ในงานตบแต่งให้เกิดความสวยงามต่างๆ

ไม้สน

ลักษณะ : เป็นไม้ประเภทที่มีใบเขียวตลอดปี ไม่มีการผลัดใบในฤดูหนาว พันธุ์ไม้สนที่พบในเมืองไทยมีอยู่ด้วยกันสองชนิดคือสนสองใบและสนสามใบ คุณสมบัติ : - ไม้สนยังถือเป็นไม้เนื้ออ่อน แม้ว่าความแข็งแรงของไม้สนบางประเภทจะมีความแข็งแรงใกล้เคียงกับไม้เนื้อแข็งก็ตามแต่ก็ยังจัดให้อยู่ในหมวดไม้เนื้ออ่อนอยู่ - เป็นไม้ธุรกิจที่ถือว่าหาซื้อได้ง่าย - สามารถนำมาแปรรูปใช้งานได้หลากหลาย -มีลวดลายสีน้ำตาลที่สวยงาม -ทนทานต่อการทะลุของไม้ - มีเส้นใยที่มีความต้านทานต่อแรงดึงสูง ประโยชน์ : ใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ ทำไม้คิ้ว ไม้บัว วงกบประตู ทำบานประตู ทำโต๊ะ เก้าอี้  รวมถึงยังสามารถนำมาทำเป็นงานตกแต่งต่างๆได้

ไม้สนอบแห้ง

ประโยชน์ของการผึ่งหรืออบ 1. ทำให้ไม้อยู่ตัว มีการยืดและหดตัวน้อย เมื่อนำไม้นั้นไปใช้งานจะไม่ทำให้เกิดเป็นช่องว่างระหว่างรอยต่อ อันเนื่องมาจากการหดตัวของไม้ หรือโค้ง โก่ง จากการขยายตัว 2. ทำให้ลดการถูกทำลายของแมลง เห็ดรา เนื่องจากในไม้สด มีพวกน้ำเลี้ยงและอาหาร พวกแป้งน้ำตาลอยู่มาก ทำให้เหมาะต่อการทำลายของแมลงและเห็ดรา 3. ทำให้ไม้มีน้ำหนักเบาเป็นการลดค่าขนส่งและสะดวกต่อการนำไปใช้ 4. ทำให้ไม้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 5. ทำให้ไม้มาการดูดซึมน้ำยารักษาเนื้อไม้ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะน้ำยาที่เป็นน้ำมันหรือใช้น้ำมันเป็นตัวทำละลาย 6. ทาสีและทาน้ำมันชักเงาได้ดี 7. ทำให้ไม้เป็นฉนวนความร้อน และฉนวนไฟฟ้าได้ดีขึ้น

ไม้สัก

ลักษณะ : เป็นต้นไม้ที่มีขนาดค่อยข้างใหญ่ ลำต้นของไม้สักนั้นมีลักษณะเปลา ตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องตื้นตามความยาวลำต้น เล็กๆ สีเทาๆ ไม้สักขึ้นเป็นหมู่ในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ บางส่วนในภาคกลางและภาคตะวันตก และมีอยู่บ้างทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย คุณสมบัติ :  เป็นไม้ที่มีคุณภาพดีที่สุด  เนื้อไม้มีสีเหลือง หากอยู่นานจะกลายเป็นสีน้ำตาลแก่  มีกลิ่นหอม  มีน้ำมันในตัว  มีเสี้ยนตรง  เนื้อไม้หยาบไม่สม่ำเสมอกัน  ทนแดด หดตัวน้อย  ไม่มีอาการบิดหรือแตกร้าวของไม้  มอดปลวกไม่ค่อยรบกวน  เมื่อเลื่อยออกจะเห็นลายได้ชัดเจนสวยงาม  เลื่อย  ผ่า  ไสกบ  ตกแต่ง  ชักเงาได้ง่าย  เป็นไม้ที่ผึ่งและสามารถแห้งได้รวดเร็ว  น้ำหนักต่อลูกบาศก์ฟุตประมาณ  35 – 45  ปอนด์ ประโยชน์ : ใช้ในการสร้างสิ่งที่ต้องทำอย่างประณีต  ต้องการความสวยงามและทนทานต้องรับน้ำหนักหรือต้านทานมาก สามารถ ผ่า เลื่อย ไสตกแต่ง และชักเงาได้ง่าย ทำประตู  หน้าต่าง  วัสดุเครื่องใช้  เครื่องเรือนและในการก่อสร้างบ้านเรือน ปลวก มอด ไม่ชอบทำลายเพราะมีสารพวกเทคโทควิโนน (Tectoquinone) อยู่ในตัวไม้

ไม้อากาตีส

ลักษณะ : เป็นไม้ประดับยืนต้นที่สวยงามมาก สูงประมาณ 50 เมตร มีลำต้นตรงแข็งแรงมาก เนื้อไม้มีสีออกเหลืองอ่อน ชอบอากาศร้อนและชื้น มีถิ่นกำเนิด สันนิษฐานว่ามีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินโดนีเซีย คุณสมบัติ : ไม้อกาตีสเป็นไม้เนื้อละเอียด ไม่เปลี่ยนรูปทรง ทนทาน ประโยชน์ : นิยมนำไม้อกาตีสมาทำประตู เฟอร์นิเจอร์ กรอบรูปหรือแม้กระทั่งเครื่องดนตรี เพราะเป็นไม้ละเอียด ไม่เปลี่ยนรูปทรง ทนทานเป็นไม้ประดับภายในบ้าน

ไม้เต็งนอก

ลักษณะ : เป็นต้นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ขึ้นเป็นหมู่ตามป่าแดดทั่วไปยกเว้นภาคใต้ ลักษณะเนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน จนถึงน้ำตาลแก่แกมแดง เสี้ยนสับสน เนื้อหยาบ แต่สม่ำเสมอแข็งแรงและทนทานมาก เมื่อผึ่งให้แห้งแล้วเลื่อยไสตกแต่งจะสามารทำได้ยาก น้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 1,040 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลักษณะคุณสมบัติ : - เป็นไม้ขนาดใหญ่มีอยู่ทั่วไปเมื่อเลื่อยไสแล้วระยะแรกจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน  หากทิ้งไว้นานจะไม้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่แกมแดง - เนื้อไม้แข็งและเหนียว  มีความแข็งแรงทนทานดีมาก   เหมาะแก่การสร้างส่วนที่รับน้ำหนักได้ดี - ทนแดด - น้ำหนัก  1  ลูกบาศก์ฟุตหรือประมาณ 60-70  ปอนด์ ข้อจำกัด : เสี้ยนหยาบสับสน  ทำให้ไสกบตกแต่งได้ยาก เนื้อไม้มักจะมีรอยร้าวเป็นเส้นผมปรากฏหัวไม้มักแตกเก่ง  ฉะนั้นไม้เต็งจึงมักจะไม่ค่อยใช้ในการสร้างสิ่งประณีต ประโยชน์ : ใช้ทำหมอนรางรถไฟ เครื่องมืออกสิกรรม เก้าอี้ ชิงช้า การสร้างบ้านเรือนที่รับน้ำหนักมาก ด้ามเครื่องมือกสิกรรม โครงสร้างอาคาร เช่น ตง คาน วงกบ ประตูหน้าต่าง โครงหลังคา เสา เป็นต้น

ไม้เต็งใน

ลักษณะ : เป็นไม้เนื้ออ่อนและหยาบ  มีสีน้ำตาลปนแดง แห่งช้า คุณสมบัติ : - มีความทนทานพอใช้ - ยืดหดง่าย - เลื่อย ไส ผ่าง่าย - ไม้บิดงอตามสภาพภูมิอากาศ ข้อจำกัด : เสี้ยนมักจะฉีกติดกันเป็นขลุยออกมา ทำให้ขัดหรือทาน้ำมันไม่ค่อยดี ถ้าไสตอนไม้สด ๆ  อยู่จะไม่เรียบดีนัก  หากใช้ในการก่อสร้างจะรับน้ำหนักมากๆไม่ได้  ใช้ในที่ต้องตากแดตากฝนไม่ได้แต่ถ้าทาสีน้ำมันป้องกันไว้  น้ำหนักต่อ  1  ลูกบาศก์ฟุตประมาณ  40-50  ปอนด์ ก็จะสามารถอยู่ได้ ประโยชน์ : ใช้ทำบ้านเรือน,เครื่องเรือนเฉพาะที่มีราคาถูก ๆ  สร้างบ้านใช้ทำฝา ทำฝ้าหรือส่วนที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก  นิยมใช้กันเพราะราคาถูกและหาง่าย

ไม้เบญจพรรณ

ลักษณะ : ไม้เบญจพรรณหมายถึงป่าที่มีต้นไม้หลายๆชนิดขึ้นอยู่รวมกัน ซึ่งไม้เบญจพรรณส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ไม้ผลัดใบ เป็นไม้ที่มีทั้งไม้เนื้ออ่อนและไม้เนื้อแข็ง มักจะขึ้นในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนปนทรายและมีความอุดมสมบูรณ์ของดินพอสมควร มีทั้งต้นไม้ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งนับได้ว่าป่าไม้เบญจพรรณอุดมไปด้วยพรรณไม้ที่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมาย นอกจากป่าไม้เบญจพรรณแล้ว ไม้เบญจพรรณยังเป็นไม้ที่ใช้เรียกไม้เนื้อแข็งที่มีไม้หลายชนิดมัดรวมกันไว้ คุณสมบัติ : เป็นไม้เนื้อแข็ง มีความแข็งแรงทนทานของไม้ค่อนข้างมาก ประโยชน์ : สามารถนำไม้เบญจพรรณไปใช้ในการทำพาเลทหรือไม้รองรับสินค้า ทำวงกบและใช้ไม้เบญจพรรณในการทำแบบก่อสร้างแต่จะไม่นิยมนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้อไม้ไม่สวย